ประเภทของ เครื่องกรองน้ำ สำหรับการทำน้ำดื่ม

เครื่องกรองน้ำ มีด้วยกันหลายประเภท ผู้ที่ต้องการซื้อเครื่องกรองน้ำ ต้องทำความรู้จักกับเครื่องกรองน้ำประเภทต่าง ๆ ก่อน รู้คุณสมบัติข้อดีและข้อเสียของเครื่องกรองน้ำแต่ละประเภท เพื่อให้คุณได้เลือกซื้อเครื่องกรองน้ำ อย่างถูกต้อง

เครื่องกรองน้ำ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ทำหน้าที่ ช่วยกำจัดสิ่งปนเปื้อน เช่น สารแขวนลอย สารเคมี คลอรีน กลิ่น รสชาติ สี หรือสิ่งไม่พึ่งประสงค์ที่มากับน้ำประปา โดยกรองผ่านไส้กรองของเครื่องกรองน้ำชั้นต่าง ๆ  เพื่อให้น้ำประปามาใช้ในการบริโภคได้อย่างสะอาด และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งเครื่องกรองน้ำ สำหรับการทำน้ำดื่ม มีด้วยกันอยู่ 3 ประเภท ดังนี้

1. เครื่องกรองน้ำดื่ม UV ( Ultra Violet )

เป็นระบบกรอง ที่นำน้ำ ผ่านประจุแสง อัลตราไวโอเลต ( Ultra Violet ) เข้มข้น เพื่อฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ ทั้งแบคทีเรีย ( Bacteria ) ไวรัส ( virus ) และ เชื้ออื่น ๆ ที่ปนเปื้อน มากับน้ำประปา ทำให้ เครื่องกรองน้ำ ชนิดนี้ สามารถกรอกสิ่งสกปรก และ ฆ่าเชื้อโรค ได้พร้อมกันในตัว แต่ในการกรองก็ยังคงเหลือแร่ธาตุในน้ำที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกายไว้อยู่ อย่างเช่น แคลเซียม ( Ca ) แมกนีเซียม ( Mg ) และฟลูออไรต์ ( F- )

ข้อดี ของ เครื่องกรองน้ำ ชนิดนี้ คือ กรองได้รวดเร็ว สามารถเปลี่ยน ไส้กรอง ได้ด้วยตัวเอง เนื่องจาก ทำความสะอาด ได้ไม่ยาก ส่วน ข้อเสีย คือ หากน้ำประปา มีตะกอนเยอะ การทำงานของ UV ในเครื่องกรองน้ำ อาจจะยังไม่เพียงพอ จึงอาจทำให้มีตะกอน ตกค้างอยู่ในน้ำดื่มได้

2. เครื่องกรองน้ำ ระบบ UF ( Ultra Filtration )

เป็น เครื่องกรองน้ำ ที่มีการพัฒนา มาจาก เครื่องกรองน้ำ ระบบ UV ( Ultra Violet ) โดย เครื่องกรองน้ำ ชนิดนี้ มีการกรองอยู่ด้วยกัน 3-4 ขั้นตอน สามารถกรอง เชื้อจุลินทรีย์ ไวรัส แบคทีเรีย และ โปรโตซัว ได้ทุกชนิด ในการกรอง แต่ละชั้น รวมถึงสามารถ กรองคลอรีน สารเคมีต่าง ๆ และ สารโลหะหนัก ที่อาจปนเปื้อน มาในน้ำประปาได้ โดยไม่ต้องใช้ ไฟฟ้าในการกรอง

3. เครื่องกรองน้ำ ระบบ RO ( Reverse Osmosis )

เป็น เครื่องกรองน้ำ ที่มีประสิทธิภาพ ในการกรองสูง เนื่องจากมีการกรองแบบ 5 ขั้นตอน ระบบมีหลักการทำงาน โดยใช้แรงดันน้ำ ผ่านไส้กรองเมมเบรน ที่มีความสะสูง ทำให้กรองได้ละเอียดที่สุด จึงสามารถ กรองสิ่งสกปรก แบคทีเรีย ไวรัส และ สารปนเปื้อนอื่น ๆ ได้ รวมถึงแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นต่อร่างกายออกไปได้ ทำให้ได้น้ำที่ มีความสะอาด และ บริสุทธิ์อย่างมาก

แต่ ข้อเสีย ของ เครื่องกรองน้ำ ชนิดนี้ คือ มีราคาค่อนข้างสูง มีการบำรุงรักษา ค่อนข้างยาก การกรองแร่ธาตุ อาจนำแร่ธาตุ ที่เป็นประโยชน์ ต่อร่างกาย ออกไปด้วย รวมถึงการทำงาน ของ เครื่องกรองน้ำ ชนิดนี้ที่มีการใช้ แรงดันน้ำ ในการทำงาน จึงอาจต้องใช้ปั๊มน้ำ ช่วยในการกรอง ทำให้ต้องมีการติดตั้ง ไฟฟ้าเพิ่มเติมอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมี เครื่องกรองน้ำ แบบ MF ( Micro Filtration System ) ซึ่งเป็น เครื่องกรองน้ำ สำหรับใช้ในการอุปโภค เช่น อาบน้ำ เครื่องซักผ้า หรือโถสุขภัณฑ์ มีการกรองน้ำ และ ปรับคุณภาพ น้ำตามแรงดัน ประปามาตรฐาน จึงไม่ต้องใช้ไฟฟ้า เครื่องกรองน้ำชนิดนี้ สามารถช่วย แก้ปัญหาน้ำกร่อย น้ำกระด่าง และ น้ำเค็มได้ แต่ยังไม่มีคุณภาพมากพอ สำหรับการกรองน้ำ เพื่อใช้ดื่ม

โดยสรุปแล้ว เครื่องกรองน้ำดื่ม มีด้วยกันอยู่ 3 ประเภท ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป สำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องกรองน้ำที่มีการใช้งานง่าย ไม่ต้องดูแลรักษามาก สามารถกรองน้ำให้บริสุทธิ์ได้ดีในระดับหนึ่ง ก็ขอแนะนำ เครื่องกรองน้ำระบบ UF ( Ultra Filtration ) แต่หากใครต้องการดื่มน้ำที่มีความบริสุทธิ์ที่มากกว่า ก็ขอแนะนำ เครื่องกรองน้ำระบบ RO ( Reverse Osmosis ) นั่นเอง

อ่านบทความเพิ่มเติม

เครื่องกรองน้ำ สามารถ กรองน้ำ แต่ละประเภท ได้จริงหรือไม่

วิธีล้าง สารกรองน้ำ ของ เครื่องกรองน้ำ