การจะซื้อ เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) เพื่อนำมาใช้งานในบ้าน จะต้องศึกษาหาข้อมูลเพื่อนำมาเปรียบเทียบดูว่าแต่ละประเภทนั้นมีระบบการทำงานแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เพื่อเลือกซื้อในสิ่งที่ดีที่สุด
ประเภท เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer )
เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) ในตลาดตอนนี้ ที่นิยมในตลาดหลัก ๆ เลยก็จะมี 3 ระบบด้วยกันคือ เครื่องกรองน้ำระบบ RO, UV, UF ซึ่งแต่ละระบบก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป มาดูกันว่า เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) แต่ละระบบมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง
1. เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) ระบบ RO
เป็นระบบกรองน้ำที่กรองน้ำได้อย่างดีที่สุด ที่สามารถกรองเอาทุกสิ่งทุกอย่างออกจากน้ำไปจนหมด ทั้งสารพิษ เชื้อโรค สารโลหะหนัก และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) ระบบ RO ถือได้ว่ามีความบริสุทธิ์ถึง 95% เนื่องจากว่า เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) ระบบนี้มีความบริสุทธิ์เกินไปทำให้ร่างกายเรานั้นไม่ได้รับแร่ธาตุอะไรเลย การที่เราดื่มน้ำบริสุทธิ์โยไม่มีแร่ธาตุอะไรเลย อาจดูแล้วไม่ส่งผลใด ๆ ต่อร่างกาย ถ้าเรารับประทานอาหารครบ 5 หมู่ก็จะช่วยทดแทนสารอาหารที่ขาดหายไปได้
2. เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) ระบบ UV
เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) UV คือ ผ่านการกรองน้ำมาก่อน 1 ขั้นตอน และใช้แสง UV ฉายไปในน้ำที่กรองแล้วเพื่อ ฆ่าเชื้อโรคอีกชั้นหนึ่ง ข้อดีของเครื่องกรองน้ำระบบนี้คือ คงเหลือแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย และระบบ เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) UV ยังประหยัดน้ำกว่า เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) ระบบ RO ซึ่งต้องสูญเสียน้ำในระบบไปถึง 25-40% ในการกรองน้ำแต่ละครั้ง แต่ เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) UV ก็อาจจะกรองน้ำบาดาล น้ำที่มีตะกอนเยอะ ๆ ไม่ได้ซึ่งจะส่งผลต่ออายุการใช้งานของ เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) ระบบนี้ด้วย
3. เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) ระบบ UF
เป็น เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) ที่มีราคาถูกกว่า 2 ระบบขั้นต้น และหาซื้อง่ายกว่า แต่ระบบกรองน้ำ ให้สะอาดจะสู้ เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) RO, UV ไม่ได้ แต่หาซื้อง่าย และมีราคาถูก และไม่ต้องใช้ไฟฟ้า จึงเป็นที่นิยมในระบบกรองน้ำในครัวเรือน
เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) แต่ระบบมีข้อดี ข้อเสีย แตกต่างกันออกไป อยู่ที่ว่าระบบน้ำดิบ ที่เรานำไปกรอง และปริมาณในการกรองน้ำ ก็ส่งผลต่ออายุไส้กรองน้ำด้วย อยู่ที่ว่าเราจะเลือก เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) แบบไหนให้เหมาะกับเรามากที่สุด
ประโยชน์จากการเลือก เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) คุณภาพดี
1. เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) ช่วยให้มั่นใจในน้ำดื่ม
ที่เราติด เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) ไว้ใช้เองภายในบ้าน เราจะรู้แหล่งที่มาของน้ำเมื่อผ่าน เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) และหลังจากผ่าน เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) เราสามารถพิสูจน์น้ำดื่มได้ตลอดเวลา และจะรู้ได้ทันทีว่าน้ำที่เราดื่มนั้นสะอาด และปลอดภัยจริง ๆ จึงทำให้มั่นใจได้เลยว่าน้ำดื่มที่เข้าสู่ร่างกายของเรา และคนในครอบครัวนั้นสะอาด ปลอดภัยจากสิ่งปนเปื้อน
2. เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) ช่วยประหยัดเงินในระยะยาว
คงไม่มีใคร อยากเสียเงินทุกวัน ทุกสัปดาห์ เพื่อซื้อน้ำขวด ที่มีราคาแพง หลายสิบขวด มาดื่ม เพราะหากคำนวณ เป็นรายปีดูแล้ว ครอบครัวไหนที่มีสมาชิกจำนวนมากอาจหมดเงินไปกับการซื้อน้ำดื่มเกิน 1 หมื่นบาท ต่อปีเลยทีเดียว ดังนั้น ซื้อ เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) เถอะค่ะ ลงทุนครั้งเดียวแต่จะทำให้คุณจะประหยัดเงินได้มากกว่าแน่นอน
3. เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) ช่วยเพิ่มโอกาส ในการดื่มน้ำในแต่ละวัน
หลายคนคงเคยเจอเหตุการณ์ที่น้ำหมด และยิ่งถ้าร้านค้าอยู่ไกล แน่นอนว่าคนส่วนมากเลือกที่จะไม่ออกไปซื้อน้ำ ทำให้ร่างกายอาจรับได้น้ำไม่เพียงพอต่อวัน แต่ถ้าคุณมี เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) ติดไว้ที่บ้าน คุณจะมีน้ำไว้ดื่มตลอดเวลาที่คุณต้องการ
4. เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) ช่วยทุ่นแรง
น้ำหนึ่งแพคมีน้ำหนักไม่เบาเลยนะคะ โดยเฉพาะครอบครัวใหญ่ ๆ ที่อยากจะซื้อน้ำมาตุนไว้หลาย ๆ แพค บอกได้เลยว่า นอกจากจะเสียเวลาออกไปซื้อแล้วยังต้องเสียแรงในการขนน้ำมาเก็บไว้อีกด้วย
5. เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน
ถึงแม้การติดตั้ง เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) จะทำให้เราต้องเสีย พื้นที่ใช้สอย ภายในบ้านไป แต่เมื่อคิดดูดี ๆ การบริโภคน้ำดื่ม แบบเป็นขวดเป็นการสิ้นเปลือง พื้นที่ใช้สอบภายในบ้านมากกว่าการติดตั้ง เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) เสียอีก ยิ่งถ้าต้องการซื้อน้ำดื่มมาสำรองไว้ในปริมาณเยอะ ๆ เพราะไม่อยากออกไปซื้อบ่อย ๆ ก็ยิ่งทำให้สิ้นเปลืองพื้นที่เยอะเช่นเดียวกัน
6. เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) ช่วยลดภาวะโลกร้อน
การดื่มน้ำดื่มบรรจุขวด หมายถึง การที่คุณใช้ขวดจำนวนมาก ถือเป็นการสร้างขยะที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน การติด เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) ไว้ที่บ้าน หรือที่ทำงานก็จะเป็นการช่วยให้เราได้ดื่มน้ำที่สะอาดและช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ในเวลาเดียวกัน
เลือก เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) อย่างไรให้คุ้มค่า
1. เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) ดูการอนุมัติ ใบอนุญาต ด้านสุขาภิบาล ของผลิตภัณฑ์
ตามกฎ ข้อบังคับ ที่เกี่ยวข้อง ของผู้ผลิต ที่ผลิต หรือ จำหน่าย เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) จะต้อง ได้รับใบอนุญาต ด้านสุขาภิบาลน้ำ หรือที่ได้รับ การอนุมัติ จากฝ่ายกำกับ ดูแลด้านสุขาภิบาล
2. ดูประเภท และระดับ ขององค์ประกอบตัวกรองของ เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer )
ส่วนประกอบหลัก ของ เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) ข้อดี ข้อเสีย ส่งผลโดยตรง ต่อการทำให้น้ำ มีความบริสุทธิ์ โดย ประเภท เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) พยายามเลือก เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) อัลตร้าฟิลเตรชัน และ รีเวอร์สออสโมซิส โดยทั่วไป ยิ่งระดับเล็ก มากเท่าไหร่ ตัวกรอง ก็จะยิ่ง ละเอียด มากขึ้นเท่านั้น และแน่นอน ว่ามันขึ้นอยู่ กับชนิดของ ไส้กรองด้วย
3. ดูที่การติดตั้ง และ บริการหลังการขาย เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer )
เมื่อจำเป็น ต้องเปลี่ยน ไส้กรอง ของ เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) ในภายหลัง เพื่อแก้ปัญหา การทำงาน ที่ผิดปกติ เป็นต้น เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) เป็นผลิตภัณฑ์ ที่ต้องมีบริการ หลังการขาย เพราะผู้ซื้อนั้นต้องการ การบำรุงรักษา เป็นเวลานาน ดังนั้น จึงต้อง มีการสื่อสาร หลังการขาย ที่ดี ดังนั้น เมื่อถึงเวลาที่ จะต้องเลือกซื้อ เครื่องกรองน้ำ ( Water ionizer ) คุณควร เลือกแบรนด์ ที่มีบริการ หลังการขาย ที่น่าเชื่อถือและเอาใจใส่
อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม
Tag :